ธุรกิจร้านลูกชิ้น

“การทำธุรกิจไม่ใช่แค่ความชอบ แต่ต้องมีความสามารถในการเห็นโอกาส
และวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของธุรกิจนั้นด้วย”

เป็นบทสรุปที่ได้จาก คุณพิทักษ์ เจาะจง และคุณวสันต์ สองเถ้าแก่ใหม่ของเถ้าแก่บางกอก วันนี้เจ๊กัญขาเม้าท์เจ้าเดิมต้องกล่าวสวัสดีและขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเรื่องเล่าความสำเร็จของเพื่อนๆ ชาวเถ้าแก่บางกอกอยู่เป็นประจำนะค่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาติดตามประสบการณ์ดีๆ กันเลยค่ะ

คุณพิทักษ์ และคุณวสันต์ เป็นเพื่อนกันมาก่อนและต้องการลงทุนทำธุรกิจด้วยกัน จึงพยายามหาช่องทางทำธุรกิจของตนเอง คุณพิทักษ์แต่เดิมทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม ดูแลการนำเข้าผลิตภัณฑ์เคมี ส่วนคุณวสันต์เป็นพนักงานประจำอยู่ที่ธนาคารทหารไทยสำนักงานใหญ่

เนื่องจากคุณวสันต์มีโครงการเออรี่รีไทร์ ทั้ง 2 ท่านจึงช่วยกันหาธุรกิจทำร่วมกัน และก็ตัดสินใจทำธุรกิจขายลูกชิ้น เพราะเป็นอาหารที่รับประทานง่าย สะดวก และสามารถทำเป็นอาหารได้หลายเมนู เช่น ปิ้ง ย่าง ยำ ทอด อีกทั้งเป็นส่วนประกอบของอาหารต่างๆ ได้หลากหลายเมนู ประจวบกับที่คุณวสันต์ ได้เข้าฟังแนะแนวการทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) ได้รับเชิญไปบรรยายและให้คำแนะแนวแก่พนักงานธนาคาร และเห็นข่าวประชาสัมพันธ์การอบรมและโครงการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ต่างๆ ของ ISMED จึงรีบกรอกใบสมัคร และแนะนำคุณพิทักษ์ให้มาสมัครด้วยเหมือนกัน

ภายหลังลาออกจากงานประจำ ก็ได้ไปเซ้งกิจการห้องเช่า ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์สามชั้น 1 คูหา แถวลาดพร้าว ซอย 1 (ข้างยูเนี่ยนมอลล์) โดยตั้งใจจะเปิดร้านลูกชิ้นที่ชั้น 1 แต่ในระหว่างการอบรมทำธุรกิจร้านลูกชิ้นก็ได้เปิดร้านเปิดร้านเหล้าปั่นไปก่อนเพราะลงทุนไม่สูงและมีกลุ่มลูกค้าที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก เมื่อจบการอบรมแล้วทั้งสอง ท่าน จึงเปิดร้านขายลูกชิ้นซึ่งเป็นการรับมาจำหน่าย ใช้ชื่อร้านว่า ”ลูกชิ้นจตุจักร” เปิดร้านไปเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2553 จากการที่เจ๊กัญขาเม้าท์ได้ติดตามชีวิตเถ้าแก่ใหม่ ทั้งสองท่านก็เล่าให้ฟังว่าเป้าหมายไม่ได้แค่รับลูกชิ้นมาขาย แต่ต้องการเป็นผู้ผลิตลูกชิ้นเพื่อจำหน่ายทั้งปลีกและส่ง และจะขยายเป็นแฟรนไชส์ต่อไป โดยกำหนดไว้ไม่เกิน 2 เดือนนับจากวันเปิดร้าน จะสามารถผลิตลูกชิ้นเองเพราะได้สั่งซื้อเครื่องผลิตลูกชิ้นแล้ว และจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี ที่จะทำแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ “ลูกชิ้นจตุจักร”

ที่มั่นใจและสามารถวางแผนได้ขนาดนี้เพราะความรู้ที่ได้จากการอบรมทำให้เห็นภาพของการทำธุรกิจจริงๆ ตั้งแต่การอบรมภาคปฏิบัติที่สอนให้ทำลูกชิ้นเป็น รู้เทคนิคการคัดเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่ไม่มีสารปนเปื้อน รู้วิธีการเลือกซื้อเครื่องมือเครื่องใช้ในการผลิตลูกชิ้นที่ราคาไม่แพง และการอบรมภาคทฤษฎีที่ทำให้เข้าใจการบริหารธุรกิจมากขึ้น เช่น การควบคุมต้นทุนการผลิต การบริหารการเงิน การคำนวณค่าใช้ต่างๆ และการวางแผนการตลาด ได้ยินอย่างนี้แล้วเจ๊กัญก็รู้สึกเป็นปลื้มอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ เพราะหลักสูตรการอบรมของสำนักพัฒนาสังคมที่ร่วมกับISMED นั้น กว่าจะคลอดมาเป็นหลักสูตรอบรมนั้น ได้ผ่านการกลั่นกรองรูปแบบการอบรมรวมถึงการคัดเลือกวิทยากรเพื่อมาร่วมโครงการกับเราอย่างเข้มข้นทีเดียวค่ะ

อย่างไรก็ตามการประสบความสำเร็จก็ขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลด้วย เพราะทั้ง 2 ท่าน ได้แสดงให้เห็นว่ามีความตั้งใจ คอยหาช่องทาง โอกาส และวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของธุรกิจที่ต้องการจะลงทุนก่อนเสมอ

ก่อนจากกันทั้ง 2 ท่าน ฝากขอบคุณสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร และ ISMED ที่ให้โอกาสเข้าร่วมโครงการดีๆ เพราะหากไม่ได้เข้าร่วมโครงการก็คงไม่มีความรู้ที่จะนำมาเริ่มต้นทำธุรกิจร้านลูกชิ้นได้ และขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนร่วมโครงการ วิเคราะห์โอกาสและอาจจะเริ่มต้นจากธุรกิจเล็กๆ ก่อน แล้วค่อยขยายกิจการในอนาคตเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นเป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ สำหรับเรื่องราวของ 2 หนุ่มเถ้าแก่ใหม่ไฟแรง เจ้าของ “ลูกชิ้นจตุจักร” คงจะทำให้ว่าที่เถ้าแก่ใหม่มีกำลังใจเพิ่มขึ้นนะคะ เจ๊กัญขาเม้าท์เจ้าเดิม จะคอยอัพเดทเรื่องราวดีๆ มาให้ชาวเถ้าแก่บางกอกเป็นประจำนะค่ะ วันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ

หมายเหตุ สอบถามเส้นทางไปร้านลูกชิ้นจตุจักร ได้ที่
คุณวสันต์ แถลงการณ์ โทร. 02 513 1536, 089 126 9672

e-mail :hua.kong@hotmail.com
คุณพิทักษ์ เจาะจงโทร. 02 939 4911, 086 329 1272
e-mail : pitak.j@hotmail.com

ขอแสดงความยินดีกับเถ้าแก่ใหม่ คุณสมจิตร บุตรลักษณ์ และคุณอมรรัตน์ ธูปผุดผ่อง

ผู้ผ่านการอบรมจากโครงการส่งเสริมอาชีพผลิตภัณฑ์ชุมชนกรุงเทพมหานครและถูมิปัญญาท้องถิ่น
กิจกรรมฝึกอาชีพเชิงธุรกิจ (เถ้าแก่บางกอก) หลักสูตรการทำธุรกิจร้านลูกชิ้น

เนื่องในโอกาสเปิดธุรกิจใหม่ ชื่อร้าน “ป๊อกเด้ง”